การเลี้ยงผำ( ไข่น้ำ )สำหรับเป็นอาหารปลา – แนวทางเกษตรเกร็ดความรู้

สวัสดีสมาชิกแฟนเพจแนวทางเกษตร เกร็ดความรู้ ศูนย์รวมความรู้ด้านการเกษตร เนื้อหาที่คัดสรรมาล้วนแต่ได้รับการเรียบเรียงข้อมูลมาเป็นอย่างดี เพื่อให้ผู้อ่านทุกท่านได้นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง โดยความรู้ที่เรานำมาฝากในวันนี้เป็นการเลี้ยงผำ(ไข่น้ำ) สำหรับเป็นอาหารปลา  ซึ่งผำเป็นพืชน้ำขนาดเล็กที่มีคุณค่าทางอาหารสูง โดยเฉพาะสารอาหารที่มีโปรตีน สามารถเกิดขึ้นได้เองตามแหล่งน้ำธรรมชาติที่ไม่มีเคมีเจือปน ซึ่งผำสามารถที่จะนำมาเป็นอาหารของสัตว์เลี้ยงต่างๆ เช่น เป็ด ไก่ ปลา กุ้ง เป็น สำหรับวันนี้เราจะมาแนะนำการเลี้ยงผำ เพื่อเป็นอาหารปลาเพื่อทดแทนอาหารเม็ด เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถลดต้นทุนได้ดี อีกอย่างจะช่วยให้ปลามีการเจริญเติบโตที่ดี แข็งแรงสมบูรณ์ เนื้อแน่น ไม่มีกลิ่นคาว การใช้ผำเป็นอาหารยังสามารถทำให้น้ำมีความสะอาด เพราะว่าตัวผำถ้าเกิดปลากินไม่หมดจะไม่มีการเน่าเสีย และสามารถอยู่ในน้ำได้ตลอดไป เป็นหนึ่งวิธีที่สามารถทำได้ง่ายๆ จะมีรายละเอียดอย่างไรนั้น เราไปรับชมกันค่ะ

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม

1.กะละมัง 2 ใบ (เจาะรูด้านข้างกะละมัง 2 รู เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำล้น ถ้าเกิดน้ำล้นจากกะละมังผำจะไหลออกไปด้วย)

2.น้ำเปล่า จะใช้เป็นน้ำบ่อ น้ำคลอง น้ำบาดาล หรือเป็นน้ำประปาก็ได้ (ถ้าเกิดเป็นประปาที่มีคลอรีน ควรที่จะพักน้ำให้กลิ่นคลอรีนหายไปก่อน)

2.ดินนา หรือถ้าจะให้ดีควรเป็นดินที่มาจากบ่อผำอยู่แล้ว

3.ผำสด สำหรับผำที่เรานำมาจะมีแหนเป็ดผสมอยู่ด้วย ถ้าเกิดเราจะเลี้ยงเป็นอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น เป็ด ไก่ หรือปลากินพืช เราไม่จำเป็นต้องคัดแยกทั้งผำและแหนเป็ด ปลาจะกินอยู่แล้ว

วิธีการทำ

1.ใส่ดินลงไปในกะลัง 5 กำมือ กระจายให้ทั่วบริเวณก้นกะละมัง

การเลี้ยงผำนอกจากเราจะใส่ดินแล้ว อย่างอื่นไม่ควรที่จะใส่ เพราะจะทำให้ผำเน่าและก็ตายไปในที่สุด

2.หลังจากที่เราใส่ดินเรียบร้อย เติมน้ำเปล่าลงไปให้ต่ำกว่ารูที่เราเจาะเล็กน้อย

หลังจากที่เราเติมน้ำเสร็จจะรอให้น้ำนิ่งสักครู่หนึ่ง ค่อยนำผำลงมาปล่อย

3.เมื่อน้ำนิ่งแล้ว เราก็สามารถนำผำลงมาปล่อยกะละมังละ 2 กำมือ หรือประมาณ 500 กรัม การปล่อยผำควรที่จะทำเบาๆเพื่อที่จะไม่ให้ผำช้ำเกินไป

การดูแลรักษา

สำหรับการดูแลรักษา หลังจากที่เราปล่อยผำไปแล้ว ควรที่จะเลี้ยงในที่ร่มหรือถ้าเกิดไม่มีร่มไม้ก็ใช้ผ้าสแลนมุง เพื่อรักษาอุณหภูมิของน้ำไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงมากเกินไประหว่างกลางวันกับกลางคืน ซึ่งถ้าเกิดอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงมากเกินไปจะทำให้ผำตาย หลังจากที่เราปล่อยผำไปแล้ว 7 วัน ปริมาณของผำก็จะเพิ่มขึ้นจาก 500 กรัม เป็น 1,000 กรัม ซึ่งเราสามารถที่จะนำตักไปเป็นอาหารปลา

โดยวิธีการตัก จะตักออกครึ่งหนึ่งจะได้ปริมาณ 500 กรัม หลังจากที่เราตักผำออกไปครึ่งหนึ่งเราก็เว้นเวลา 7 วันเหมือนเดิม ค่อยมาตักใหม่ผำก็จะขยายไปเรื่อยๆเราก็สามารถที่จะตักได้ทุกสัปดาห์ สำหรับการเลี้ยงผำ เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำ แค่หมั่นมาดูระดับน้ำลด ถ้าน้ำลดควรเติมน้ำเรื่อยๆ และไม่ควรที่จะให้ปุ๋ย เพราะว่าผำสามารถหาอาหารได้จากน้ำจากดินที่เราเติมลงไปอยู่แล้ว

ระยะเวลาของผำจะอยู่ได้นานนั้น จะขึ้นอยู่กับสภาพของน้ำที่เรานำมาเลี้ยงผำ ถ้าเกิดสภาพของน้ำเปลี่ยนแปลงมากเกินไป หรือว่าโดนละอองสารเคมีตกกระทบเข้าไปอาจจะทำให้ผำตาย ซึ่งโดยปกติแล้วถ้าไม่มีสารเคมีจากภายนอกเข้าไปปะปนในน้ำ ผำจะสามารถอยู่ได้ประมาณ1 ปี ขึ้นไป

ตัวอย่างผำที่เลี้ยงไว้

การให้อาหารปลา

การให้อาหารปลาสามารถที่จะนำผำที่เราเลี้ยงไปให้ได้เลย โดยการจะเทหรือหยิบใส่น้ำบ่อที่เลี้ยงปลา เราสามารถที่จะให้อาหารได้เรื่อยๆ ถึงแม้ปลาจะกินไม่หมดก็ไม่ทำให้น้ำเน่าเสีย

การเลี้ยงผำ(ไข่น้ำ) สำหรับเป็นอาหารปลา สำหรับเพื่อนๆเกษตรกรที่ต้องการจะเลี้ยงเป็ด ไก่ หรือเลี้ยงปลา ท่านสามารถที่จะหาผำที่อยู่ใกล้ๆแหล่งน้ำของท่าน สามารถที่จะนำมาเลี้ยงเพื่อที่จะเป็นอาหารสำหรับเลี้ยงสัตว์เลี้ยงของท่านได้ เป็นอีกวิธีที่ช่วยในเรื่องของการลดต้นทุนอีกทางหนึ่ง ที่สามารถทำได้ง่ายๆ การดูแลรักษาก็สามารถทำได้ง่ายเช่นเดียวกัน ซึ่งการใช้ผำเป็นอาหารปลา จะทำให้ปลามีควมแข็งแรง น้ำไม่เสีย เพื่อนๆลองนำวิธีนี้ไปปรับใช้ดูนะคะ หากอ่านบทความไม่เข้าใจ ทางทีมงานเราได้ถ่ายทำขั้นตอนการทำอย่างละเอียดไว้ให้เพื่อนๆได้ชมกันอีกด้วย ตามลิงก์ด้านล่างนี้เลยค่ะ

เขียนโดย แนวทางเกษตร เกร็ดความรู้