ยินดีต้อนรับสมาชิกผู้ทำเกษตรทุกท่าน ทั้งสมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ด้วยค่ะ พบกับเราอีกเช่นเดิม เว็ปไซต์ศูนย์รวมบทความเกร็ดความรู้ต่างๆเกี่ยวกับการทำเกษตรอินทรีย์ วันนี้จะมาแนะนำครูวิเชียร ผู้โค่นยางพาราทิ้ง 5 ไร่ เพื่อปลูกพืชทำนาสวนผสม ชาวบ้านหาว่าบ้า แต่ปีเดียวกลับสร้างรายได้ แบบยั่งยืน จึงตัดสินใจโค่นสวนย าง มรดกภรรยา ประมาณ 20 ไร่ เดินตามรอยพ่อจนกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรเราไปติตามชมกันได้เลยค่ะ
คุณครูวิเชียร ขุนเพ็ขร เป็นครูโรงเรียนเทศบาล 1 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้หันมาทำสวนพอเพียง ที่บ้านคลองช้าง หมู่ที่ 9 บ้านบางเหรียง อ.ควนเนียง บนพื้นที่ 20 ไร่
โดยทางด้านหน้าซ้ายมือ มีป้ายแปลงสาธิตเกษตรน้ำน้อยด้วยบาดาล ปลูกพืชชนิดต่างๆ อย่างเป็นสัดส่วน ซึงปลูกต้นกล้วย ต้นสละพันอินโด มะละกอ ต้นหมากและเลี้ยงตัวชันโรง แปลงปลูกข้าวไรซ์เบอรรี่ พร้อมพืชผักสวนครัวทุกชนิด เก็บขายได้ทุกวัน สร้างรายได้ให้แม่บ้าน อดีตข้าราชการที่ลาออกมาเป็นแม่ค้า ทำรายได้เป็นเงิน 2-3 หมื่นบาทต่อเดือน ส่วนใหญ่นำไปขายที่ตลาดใกล้บ้าน และที่ตลาดน้ำบางเหรียง ในนามกลุ่มเกษตรกรบางกล่ำ พร้อมได้ทานพืชผักปลอดสารของตัวเองอีกด้วย
และครูวิเชียร เล่าว่าตนได้ติดตามพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งที่ผ่านมาปลูกยางพารามาโดยตลอด ปรากฏว่าราคาไม่แน่นอนแต่ละเดือนกรีดได้ไม่กี่ครั้ง จึงปรึกษากับภรรยาว่าขอโค่นต้นยางทิ้ง หันมาปลูกพืชสวนผสมและอยากทำความดีถวายในหลวง จึงทำการทดลองทำในวันเสาร์อาทิตย์ ช่วงเย็นหลังเลิกเรียน
ทั้งนี้ ครูวิเชียรปลูกพืชผักสวนครัว ทุกอย่างจนเพื่อนบ้านหาว่าบ้าแต่ตนสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตขายได้ทุกวัน พอครบ 1 ปี จึงโค่นสวนยางที่เหลืออีก 10 ไร่ ลงพืชที่สามารถทำเงินขายได้ทุกฤดูกาล ราคาไม่ตก
แต่ยังคงเหลือยางพาราอีก 5 ไร่ ไว้เปรียบเทียบรายได้พบว่ายางพาราสามารถกรีดได้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง แทบไม่มีรายได้เลย ชาวบ้านจึงเริ่มหันมาสนใจมาดูงาน จนกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ของประชาชนทั่วไป รวมทั้งกลุ่มเกษตรกรพอเพียงจากทั่วประเทศ สร้างความภูมิใจให้กับตัวเองและเพื่อในหลวง รัชกาลที่ 9 สมความตั้งใจของครูวิเชียร
ข้อมูลจาก thairath
เขียนโดย แนวทางเกษตร เกร็ดความรู้