แนวทางเกษตรเกร็ดความรู้
ทักทายสมาชิกผู้ทำเกษตรทั้งหลายด้วยครับ ยินดีต้อนรับสมาชิกทุกท่านเข้าสู่เว็บไซต์ศูนย์รวมบทความทางการเกษตรที่เราได้ล้วนคัดสรรเนื้อหาใหม่ๆที่มีประโยชน์ต่อผู้ทำเกษตรมาแบ่งปัน ได้รับชมและนำไปใช้ในทางการเกษตรได้จริง สำหรับวันนี้เราจะพาทุกท่านไปชมวิธีการหมักไคโตซานจากกะปิ เราไปดูรายละเอียดกันเลยครับ
ไคโตซาน เป็นสารสกัดที่ได้จากธรรมชาติ โดยเราสามารถสกัดได้จากเปลือกกุ้ง กระดองปู แกนปลาหมึก ซึ่งไคโตซานสามารถใช้เป็นสารเพื่อปรับสภาพดินและน้ำได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังเป็นสารที่ไปช่วยกระตุ้นให้พืชมีการเจริญเติบโตได้ดีขึ้น ช่วยเร่งราก เร่งใบ เร่งลำต้น เร่งดอก เร่งผล เรียกได้ว่าเร่งทุกส่วนของการเติบโตของพืชเลยก็ว่าได้ครับ
สาเหตุที่เลือกใช้กะปิ เพราะว่ากะปินั้นได้ทำมาจากเคย ซึ่งเคยก็เป็นสัตว์ตระกูลเดียวกันกับกุ้ง ในเปลือกของเคยจะมีสารจำพวกไคโตซานอยู่ เราจึงจะนำกะปิมาสกัดเอาสารเหล่านั้นออกมาใช้ประโยชน์ทางการเกษตรครับ เป็นวัตถุดิบที่สามารถหาได้ง่าย และทำได้ง่าย เราไปดูขั้นตอนการทำกันเลยครับ
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
1.กะปิ 1 กระปุกเล็ก หรือ 100 กรัม
2.น้ำตาลทรายแดง 100 กรัม
3.น้ำเปล่า 500 ซีซี
4.หัวเชื้อจุลินทรีย์เปลือกสับปะรด 100 ซีซี หากไม่มีสามารถใช้สับปะรดสุก+เปลือกสับปะรดแทนได้ ใช้ในอัตราส่วน 200 กรัม
5.ภาชนะหมัก พร้อมฝาปิด
6.ช้อน
7.อุปกรณ์สำหรับคนส่วนผสม
ขั้นตอนการทำ
1.เทจุลินทรีย์เปลือกสับปะรดลงไปในถังหมัก ปริมาณ 100 ซีซี
2.ตักกะปิลงไปในถัง จากนั้นใช้ไม้คนกะปิให้ละลาย
3.เติมน้ำตาลทรายแดง 100 กรัม
4.เทน้ำตามลงไป 500 ซีซี
5.ใช้ไม้คนส่วนผสมทุกอย่างให้ละลายเข้ากันดี
6.ปิดฝาภาชนะ ถือเป็นอันเสร็จขั้นตอนการทำ
การเก็บรักษา
เก็บภาชนะหมักไว้ในที่ร่ม ไม่ให้โดนแสงแดด ใช้ระยะเวลาในการหมักประมาณ 45 วันหรือเดือนครึ่ง จึงจะนำไปใช้งาน
วิธีการนำไปใช้งาน
หลังจากหมักครบระยะเวลาที่กำหนดแล้ว สามารถเก็บไว้ใช้งานได้นาน 6 เดือน สามารถนำไปใช้งานได้ 2 แบบ ได้แก่ การนำไปผสมน้ำใส่บัวรดน้ำรดต้นไม้ที่มีขนาดเล็ก และการนำไปผสมน้ำฉีดพ่น เหมาะสำหรับต้นพืชที่มีความสูงไม่สามารถใช้บัวรดน้ำได้ จะฉีดพ่นแทนครับ อัตราส่วน 40 ซีซี : น้ำ 20 ลิตร
ไคโตซานสามารถใช้กับพืชได้ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นพืชไม้ดอก ไม้ประดับ พืชผักสวนครัว นาข้าว ไร่มันสำปะหลัง ใช้เพื่อเร่งการเจริญเติบโต มีความปลอดภัยต่อต้นไม้ ผู้บริโภคและผู้ใช้งาน กะปิสามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป หรือจะใช้ที่มีอยู่ในครัวก็ย่อมได้ เป็นสูตรที่ประหยัดและทำได้ง่ายครับ หากเพื่อนๆอ่านบทความไม่เข้าใจ สามารถรับชมวิดีโอเพิ่มเติมที่แนบมาด้านล่างนี้กันได้นะครับ ในวิดีโอมีวิธีการทำอย่างละเอียดครับ
เขียนโดย แนวทางเกษตร เกร็ดความรู้
ชมคลิปเพิ่มเติม
