สูตรเร่งดอก เร่งผล ด้วยผงชูรส สูตรนี้งามทั้งสวน

0
4230

ทักทายสมาชิกผู้ทำเกษตรทุกๆท่านด้วยค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ me-panya.com ศูนย์รวมบทความสาระความรู้ต่างๆเกี่ยวกับเกษตรทั่วทุกด้าน แน่นอนว่ามาพบกับเรา ก็ต้องมีความรู้มาเผยแพร่ให้เพื่อนๆกันแน่นอน เรื่องที่เรายกมานำเสนอในวันนี้ เป็นสูตรเร่งดอกเร่งผล แค่มีผงชูรส โดยคุณสมบัติของผลชูรสจะมีส่วนประกอบเป็นธาตุอาหารไนโตรเจน และกรดอะมิโนที่ได้จากพืช ตัวนี้จะนำมาใช้ในเรื่องของการกระตุ้นต่างๆของพืชได้ดี สำหรับกรดอะมิโนจะเป็นส่วนประกอบของโปรตีนที่พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งจะมีอยู่หลายชนิด เราจึงนำมาช่วยให้ติดดอกออกผลได้เร็วขึ้น จะมีวิธีการทำอย่างไรนั้น เราไปรับชมกันเลยค่ะ

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม

1.ผงชูรส

2.ช้อน

3.ถังพ่น

4.น้ำเปล่า

วิธีการทำ

1.นำผงชูรสมา 1 ช้อนแกง ต่อน้ำ 5 ลิตร ใช้ในการฉีดพ่นเพื่อเร่งดอกเร่งผลของพืชผักในช่วงที่ติดดอกออกผล

2.หลังจากที่เราใส่ผงชูรสเสร็จเรียบร้อย เติมน้ำลงไป 5 ลิตร

3.เมื่อเติมน้ำแล้วทำการปิดฝาถังฉีดพ่นเขย่าให้ผงชูรสละลาย 2 – 3 นาที

การนำไปใช้งาน

สำหรับวิธีการนำไปใช้งานจะนำไปละลายน้ำแล้วนำไปฉีดพ่นพืชผักต่างๆ อย่างเช่น มะเขือ พริก มะนาว รวมไปถึงไม้ดอกไม้ประดับ เพื่อจะช่วยเร่งให้ดอกใหญ่ขึ้น และมีลักษณะที่สมบูรณ์ขึ้น ซึ่งจะช่วยในเรื่องติดดอกออกผลได้ดี

ลักษณะการนำไปใช้งานจะใช้ในช่วงที่พืชติดดอกออกผล โดยการสังเกตจากต้นเมื่อมีการติดดอกออกผลมีความสมบูรณ์แล้วจะใช้สูตรนี้เพื่อที่จะเปิดตาดอก ความถี่ในการใช้งานสามารถใช้ได้ทุกสัปดาห์ สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสมในการฉีดพ่นจะเป็นช่วงเช้า หรือช่วงเย็น

สูตรเร่งดอกเร่งผล แค่มีผงชูรส การใช้ผงชูรสเพื่อการเกษตรจะมีหลายรูปแบบ เช่น การใช้เป็นสารเร่งราก เร่งดอกเร่งผล เร่งใบต่างๆ และเร่งการเจริญเติบโตในส่วนต่างๆของพืช เพราะว่าในผงชูรสจะมีสวนประกอบสิ่งที่มีประโยชน์ต่อพืช เราจึงสามารถที่จะมาใช้งานได้ อย่างเช่น ธาตุอาหารไตนโตรเจน กรดอะมิโน และมีส่วนประกอบที่เป็นน้ำตาลต่างๆ ซึ่งพืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในส่วนต่างๆของพืชได้เร็ว และเป็นอย่างดี โดยผงชูรสเป็นสิ่งที่สามารถหาได้ง่าย มีความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อมอีกด้วยค่ะ เพื่อนๆ ลองนำวิธีนี้ไปปรับใช้ดูนะคะ หากอ่านบทความไม่เข้าใจ ทางทีมงานเราได้ถ่ายทำขั้นตอนการทำอย่างละเอียดไว้ให้เพื่อนๆได้ชมกันอีกด้วย ตามลิงก์ด้านล่างนี้เลยค่ะ

เขียนโดย แนวทางเกษตร เกร็ดความรู้

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่