จุุลินทรีย์ จากน้ำหมักปลีกล้วย บำรุงดอก ลดการหลุดร่วงของดอกและผล – แนวทางเกษตรเกร็ดความรู้

สวัสดีทุกท่านครับ พบกันอีกครั้งกับเว็บไซต์ของเรา me-panya ศูนย์รวมเรื่องราวด้านการเกษตร  วันนี้เราจะพามาดูวิธีการทำน้ำหมักปลีกล้วย บำรุงดอก ลดการหลุดร่วงของดอกและผล เป็นวิธีการภูมิปัญญาชาวบ้าน เป็นเทคนิคจาก อาจารย์นิติ ดวงวันทอง  โดยทางช่องของเรานั้นได้ถ่ายทำเอาไว้ซึ่งมีขั้นตอนวิธีการทำแบบละเอียด  ซึ่งรายละเอียดต่างๆและขั้นตอนจะเป็นยังไงนั้นไปรับชมกันเลยครับ

การทำจุลินทรีย์ปลีกล้วย เนื่องจากปลีกล้วยมีสารอาหารหลายอย่าง มีประโยชน์ต่อพืชผัก ทำให้ใบพืชมีสีเขียวสวยงาม มีผลดก ผลไม่ร่วง เพราะปลีกล้วยมีธาตุอาหารที่เป็นแม็กนีเซียม เป็นธาตุที่สร้างสารคลอโรฟิลด์ให้กับพืช ทำให้สังเคราะห์แสงได้ดีขึ้น ลำเลียงธาตุอาหารที่เป็นฟอสฟอรัส ซึ่งมีผลในด้านการออกดอกออกผล สามารถให้ประโยชน์กับพืชได้เยอะขึ้นอีกด้วย เหตุผลที่ต้องนำมาหมักก่อน เพราะว่าสารอาหารในปลีกล้วยจะอยู่ในรูปของโมเลกุลขนาดใหญ่ เราจึงนำมาย่อยสลายโดยใช้จุลินทรีย์เป็นตัวช่วยในการย่อยสลาย เพื่อให้พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้สูงสุด

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม

1.ปลีกล้วย

2.กากน้ำตาล

3.จุลินทรีย์ที่เป็นตัวเร่งในการย่อยสลาย

4.น้ำเปล่า

5.ภาชนะบรรจุในการหมัก

6.มีด

วิธีการทำ

1.หั่นปลีกล้วย หั่นให้มีขนาดเล็กที่สุดเพื่อง่ายต่อการย่อยสลาย

2.นำปลีกล้วยที่หั่นแล้วใส่ขวด

3.เติมกากน้ำตาล อัตราส่วน 1ปลีกล้วย ต่อกากน้ำตาล 200 ซีซี

4.เติมจุลินทรีย์เพื่อช่วยในการย่อยสลายให้เร็วขึ้น ปริมาณ 200 ซีซี

5.เติมน้ำเปล่าให้ท่วมปลีกล้วย หลังจากนั้นปิดฝาขวด

6.หลังจากปิดฝาแล้ว ให้ทำการเขย่าจนกว่ากากน้ำตาลจะละลาย

วิธีการเก็บรักษา

ระหว่างที่อยู่ใช่วงการหมัก จะต้องมีการเปิดฝาทำการคนหรือเขย่าทุกวันในช่วงสัปดาห์แรก โดยระยะเวลาในการหมักทิ้งไว้ประมาณ 3 สัปดาห์ หากไม่เติมสารจุลินทรีย์เพื่อเร่งการย่อยสลายจะใช้เวลาหมักประมาณ 4 สัปดาห์

การนำไปใช้งาน

หลังจากที่หมักเสร็จครบ 3 สัปดาห์แล้ว จะกรองในส่วนเฉพาะที่เป็นน้ำไปใช้งาน โดยจะนำไปผสมน้ำแล้วน้ำไปพ่น โดยอัตราส่วนจะอยู่ที่ 20 ซีซี ต่อน้ำ 10 ลิตร โดยในการทำน้ำหมักจุลินทรีย์ปลีกล้วย 1 ครั้ง สามารถเก็บไว้ใช้ได้ประมาณ 1 ปี โดยการเก็บไว้ในที่ร่มและแห้ง

ก็เสร็จเรียบร้อยครับสำหรับวิธีการทำน้ำหมักจุลินทรีย์จากปลีกล้วย เป็นอย่างไรกันบ้างครับ หวังว่าสมาชิกทุกท่านจะชอบบทความนี้นะครับ ทุกท่านสามารถรับชมวิดีโอเพื่อประกอบการทำได้ โดยดูได้จากลิงค์ด้านล่างที่แนบมาได้เลยนะครับ

ที่มา แนวทางเกษตร เกร็ดความรู้