วิธีการดองผักสะเดา เก็บไว้ทานเองตลอดปี – แนวทางเกษตรเกร็ดความรู้

สะเดา จัดเป็นพืชสมุนไพร สามารถพบได้ทั่วไปตามป่าแล้ง เป็นพืชไม้ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีลำต้นสูง 20-25 เมตร ลักษณะของต้นเป็นทรงเรือนยอดเป็นพุ่มหนาทึบตลอดปี เปลือกของลำต้นค่อนข้างหนา มีสีน้ำตาลเทาหรือสีเทาปนดำ

สะเดาแบ่งออกเป็น 3 ชนิดได้แก่

1.สะเดาไทยหรือสะเดาบ้าน ลักษณะของใบหยักเป็นฟันเลื่อย ปลายของฟันเลื่อยทู่ โคนใบเบี้ยวแต่กว้างกว่า ปลายใบแหลม

2.สะเดาอินเดีย ลักษณะของใบ ขอบใบเป็นหยักคล้ายฟันเลื่อย ปลายของฟันเลื่อยแหลม ปลายใบมีลักษณะแหลมเรียวแคบมาก ส่นโคนใบเบี้ยว

3.สะเดาช้าง ชนิดนี้ลักษณะขอบใบจะเรียบหรือปัดขึ้นลงเล็กน้อย ปลายใบเป็นติ่งแหลม ขนาดของใบและผลจะใหญ่กว่า 2 ชนิดแรก

การดองสะเดา เป็นวิธีการถนอมอาหารเพื่อรักษาไว้ให้รับประทานได้ตลอดทั้งปี เนื่องจากสะเดานั้นเป็นพืชผักที่ออกตามฤดูกาล ออกผลผลิตปีละ 1 ครั้ง หากมีการรับประทานไม่หมด ก็มีความจำเป็นจะต้องทิ้ง วันนี้เราจะพามาดูวิธีการดองสะเดาเก็บไว้กินนานๆกันครับ

อุปกรณ์การดองสะเดา (สำหรับสะเดา 5 กิโลกรัม)

1.สะเดา 5 กิโลกรัม

2.เกลือ 1.5 กิโลกรัม

3.ถังที่มีฝาปิดมิดชิด

4.น้ำสะอาด

ขั้นตอนในดองสะเดา

1.ล้างสะเดาให้สะอาด จากนั้นให้นำมาใส่ถังที่เตรียมไว้

2.โรยเกลือโปะไว้ด้านบนของสะเดา

3.นำขวดพลาสติกใส่น้ำ แล้วนำมาวางทับไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้สะเดาลอยน้ำขึ้นมา

4.เติมน้ำสะอาดลงถัง ให้ท่วมสะเดา

5.ปิดฝาถังให้มิดชิด หมักทิ้งไว้ 3 เดือน จากนั้นนำมารับประทานได้เลยหรือสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นไว้กินครั้งต่อไปได้

เป็นอันเสร็จแล้วครับ สำหรับวิธีการดองสะเดา เพียงทำตามขั้นตอนที่ว่ามานี้ เราก็มีสะเดาอร่อยๆ เอาไว้กินทั้งปีอย่างแน่นอน ท่านไหนที่สนใจสามารถลองนำไปทำดูกันได้นะครับ

สารอาหารของยอดสะเดา

พลังงาน 76 กิโลแคลอรี

คาร์โบไฮเดรต 12.5 กรัม

โปรตีน 5.4 กรัม

ไขมัน 0.5 กรัม

เส้นใยอาหาร 2.2 กรัม

น้ำ 77.9 กรัม

เบต้าแคโรทีน 3,611 ไมโครกรัม

วิตามินบี1 0.06 มิลลิกรัม

วิตามินบี2 0.07 มิลลิกรัม

วิตามินซี 194 มิลลิกรัม

แคลเซียม 354 มิลลิกรัม

เหล็ก 4.6 มิลลิกรัม

ฟอสฟอรัส 26 มิลลิกรัม

เรียบเรียงโดย แนวทางเกษตร เกร็ดความรู้