ไม้เศรษฐกิจ
เป็นไม้ยืนต้นที่ปลูกเพื่อนำมาใช้ประโยชน์และเพื่อการค้า เป็นไม้ที่นำมาสร้างมูลค่าได้อย่างมากหรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ มีประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยจำแนกออกเป็นดังนี้
ไม้แผ่น ไม้แปรรูป
เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีอายุ 2 ปีขึ้นไป เช่น ไม้สัก ไม้พยุง ไม้ชิงชัน ตะเคียน มะค่า เต็ง ไม้ประดู่ สะเดา พะยอม กระถินเทพา มะฮอกกานี ตะกู จามจุรี จำปาป่า และแดง เป็นต้น เป็นไม้ที่มีลวดลายสวยงาม นำมาใช้ประโยชน์ในการสร้างบานประตู หน้าต่าง รวมถึงการทำแผ่นไม้สำหรับปูพื้นก็ย่อมได้
ไม้เนื้อเยื่อและการใช้สอย
จำพวกไม้ไผ่ ยูคาลิปตัส เป็นต้น โดยนำเนื้อเยื่อไปสร้างกระดาษ ส่วนกิ่งและลำต้นนำไปสร้างเสาค้ำ เสาโรงเรือน เป็นต้น
1.ไม้ที่นิยมนำมาทำเป็นกระดาษจะมีเนื้อเยื่อและแก่นที่อ่อน ได้แก่ ไม้ยูคาลิปตัส ไม้กระถิน ไม้กระถินเทพา ไม้สะเดา เป็นต้น
2.ไม้ใช้สอยที่มีขนาดลำต้นไม่ใหญ่มาก ได้แก่ ไม้ยูคาลิปตัส ไม้ไผ่ และลำต้นไม้ชนิดอื่นที่มีราคาต่อต้นต่ำ
3.ไม้สกัดยาง และน้ำมันหอมระเหย เป็นการนำของเหลวจากต้นไม้ออกมาไม่ว่าจะด้วยการกรีดหรือการสกัดเอาน้ำออกมาใช้ประโยชน์ เช่น น้ำจากต้นยางพารา น้ำมันหอมระเหยจากต้นกฤษณา เป็นต้น
ไม้แผ่นและไม้แปรรูป ได้แก่ ไม้สัก ไม้พยุง ไม้ชิงชัน ตะเคียน มะค่า เต็ง ไม้ประดู่ สะเดา พะยอม กระถินเทพา มะฮอกกานี ตะกู จามจุรี จำปาป่า และแดง เป็นต้น
ไม้เนื้อเยื่อและการใช้สอย ได้แก่ ไม้ไผ่ ยูคาลิปตัส เป็นต้น
ไม้สกัดยางและน้ำมันหอมระเหย ได้แก่ ยางพารา กฤษณา เป็นต้น
การปลูกไม้ไว้สำหรับใช้สอยเราสามารถที่จะปลูกได้ในบริเวณพื้นที่ของเราได้เลย แต่ถ้าหากจะปลูกเพื่อจะทำการตัดไปค้าขายจะต้องมีการแจ้งเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้เนื่องจากเป็นไม้หวงห้ามตามกฏหมาย ทั้งนี้ไม้เศรษฐกิจบางชนิดสามารถนำไปใช้สอยให้เกิดประโยชน์ได้หลากหลายรูปแบบ เช่น ปลูกไม้ยูคาลิปตัสเพื่อใช้เนื้อเยื่อมาทำกระดาษ แต่ส่วนอื่นๆของต้นไม้ก็ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในด้านอื่นได้อีกด้วย ถือว่าได้ประโยชน์หลายทางเลยครับ
เรียบเรียงโดย แนวทางเกษตร เกร็ดความรู้