สวัสดีผู้อ่านทุกๆท่านครับมาพบกันอีกครั้งกับเว็บไซต์ของเราศูนย์รวมไอเดียเกษตรที่มีเรื่องราวมากมายมานำเสนอ แต่ละเรื่องถูกคัดสรรมาอย่างดีรับรองว่าเป็นประโยชน์กับผู้อ่านอย่างแน่นอน วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูวิธีการทำปุ๋ยโบกาฉิครับ เป็นปุ๋ยที่มีคุณภาพสูงหรือเป็น EM แบบแห้งที่มีประโยชน์ต่อดิน สูตรนี้เป็นเทคนิคจากอาจารย์นิติ ดวงวันทอง เจ้าของสวนเกษตรผสมผสานอำเภอโกสุมพิสัยจังหวัดมหาสารคาม วิธีการทำจะเป็นยังไงนั้นไปรับชมกันเลยครับ
เตรียมอุปกรณ์
1 มูลสัตว์หรือปุ๋ยคอกจำนวน 1 ส่วน , แกลบผสมรำอ่อนใช้อัตรา 2 ส่วน (ใช้วัสดุตวงเป็นกะละมัง)
2 น้ำเปล่า (ใช้ครึ่งกะละมัง)
3 EM น้ำ , กากน้ำตาล
4 อุปกรณ์สำหรับผสม กะละมัง,พลั่ว,ถุงปุ๋ย
วิธีทำ
1 ผสมวัสดุ มูลสัตว์,แกลบ,รำ ลงในกะละมังใบใหญ่ จากนั้นใช้พลั่วผสมให้เท่ากัน
ขั้นตอนนี้ต้องผสมกันให้เข้ากันดีที่สุด
2 นำกากน้ำตาลและ EM แบบน้ำผสมลงไปในน้ำเปล่า โดยใช้อัตราส่วน กากน้ำตาล 2 ช้อน, น้ำEM 1 ช้อน
3 นำน้ำที่ผสมเสร็จแล้วเติมลงไปในกะละมังที่เตรียม เทคนิคการทำให้เติมทีละน้อยๆไม่ควรเทน้ำลงไปครั้งเดียว เติมน้ำลงไปเล็กน้อยและผสมเรื่อยๆ
4 ค่อยๆผสม ห้ามมีน้ำแฉะเกินไปและแห้งเกินไป
5 เมื่อผสมได้ที่แล้วจะมีลักษณะในรูป วิธีการเช็คให้นำมือกำ หากวัสดุจับตัวกันเป็นก้อนและไม่มีน้ำแสดงว่าทำถูกต้อง
6 นำวัสดุใส่ลงไปในถุงปุ๋ยแล้วมัดปากถุง เสร็จขั้นตอนการทำ
การเก็บรักษา
หลังจากที่ทำเสร็จแล้วให้นำถุงปุ๋ยที่ใส่ไปเก็บไว้ในที่ร่ม ใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ วิธีการทดสอบปุ๋ยว่าใช้งานได้แล้วหรือยังให้ใช้มือสัมผัสลงไปในถุงปุ๋ย หากไม่มีความร้อนแสดงว่าปุ๋ยที่ทำนั้นสามารถใช้งานได้แล้วแต่หากยังมีความร้อนอยู่แสดงว่าจุลินทรีย์ยังทำงานอยู่ยังไม่สามารถใช้งานได้
วิธีใช้งาน
ปุ๋ยโบกาฉิคือปุ๋ยที่มีคุณภาพสูงไม่สามารถนำไปเป็นดินปลูกได้เลย วิธีการใช้งานจึงนำปุ๋ยนี้้ไปผสมกับดินเพื่อใช้งานเป็นดินปลูก หรือนำไปผสมกับดินที่เสื่อมสภาพเพื่อปรับสภาพหน้าดินได้ และยังมีประโยชน์อีกหลายๆอย่าง
เป็นยังไงบ้างครับก็หวังว่าเรื่องนี้จะถูกใจทุกๆคนด้วย ทางช่องของเราถ่ายทำจากเกษตรกรตัวจริงที่มีความรู้และประกอบอาชีพเป็นเกษตรกรจึงมั่นใจได้ว่าข้อมูลที่นำมานี้เชื่อถือได้อย่างแน่นอนครับ หากท่านสนใจสามารถนำไปทดลองใช้ดูได้ หากได้ผลดียังไงนั้นก็สามารถส่งต่อให้กับเพื่อนๆดูเป็นตัวอย่างได้ หากผู้อ่านยังไม่เข้าใจขั้นตอนต่างๆและวิธีการทำก็สามารถดูคลิปเต็มได้ตามที่มาด้านล่างนะครับ
ที่มา แนวทางเกษตร เกร็ดความรู้