ประโยชน์จากการปลูกถั่วเขียวหลังนา
– ช่วยเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุ และเพิ่มธ า ตุไนโตรเจนในดินทดแทนการใช้ปุ๋ ยเ ค มี
– ช่วยรักษาความชุ่มชื้นในดินและทำให้ดินร่วนซุย
– เนื่องจากเป็นปุ๋ ยพืชสดที่ช่วยเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดิน จึงช่วยเพิ่มผลผลิตของพืชให้สูงขึ้น
– การปลูกถั่วเขียวนอกจากจะปลูกเพื่อขยา ยพั นธุ์แล้ว ผลผลิตบางส่วนสามารถนำไปจำ หน่ายได้ในราคา กิโลกรัมละ 35-40 บาท เพื่อเสริมรายได้จากการทำนา
ก่อน ปลูกนำไปแช่น้ำ 1-2 ชั่วโมง เพื่อกระตุ้ นให้ถั่วเขียวแท งหน่อขึ้นมาง่ายแล้วนำไปหว่านในนาข้าว อัตรา 5 กิโลกรัมต่อ 1 ไร่
โดยจะปลูกในช่วงหลังเก็บเกี่ยวข้าวทันที เพราะดินยังมีความชื้นอยู่ เป็นการควบคุมวัชพืชไปในตัวเนื่องจากต้นถั่วเขียวจะบังแสงและป้องกันวัชพืชงอก ในขณะเดียวกันความชื้นในดินจะเป็นตัวช่วยควบคุมวัชพืชได้ด้วย จึงไม่จำเป็นต้องใช้สา รเ ค มี
1.ภายหลังจากตอซังข้าวย่อยสลายสมบูรณ์แล้วทำการเตรียมดินโดยไถคราดดินให้ร่วนซุยและกำจัด เ ศ ษ วั ช พืชออกให้หมด จากนั้นทำการหว่านเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียว (เพื่อเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ปลูกในฤดูถัดไป) อัตรา 3 กิโลกรัม/ไร่
2. ช่วงระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ หลังจากต้นถั่วงอกเหนือพื้นดิน ทำการกำจัดหญ้าวั ช พืชอย่างน้อย 15 วัน/ครั้ง ด้วยวิธีดายหญ้ าหรือใช้มือถอน และเนื่องจากถั่วเขียวเป็นพืชที่ทนแล้งได้ดี อาจจะให้น้ำเป็นบางครั้ง หรืออย่างน้อย 30 วัน/ครั้ง
3. การปลูกถั่วเขียวครั้งที่ 1 จะเป็นการปลูกเพื่อขยายเ ม ล็ ด พั น ธุ์ ภายหลังจากถั่วเขียวอายุได้ 60-70 วัน หรือช่วงระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน ฝักของถั่วเขียวจะเริ่มแห้งเปลี่ยนเป็นสีดำที่พร้อมสำหรับการเก็บเกี่ยว
4.. ผลผลิตถั่วเขียวฝักสดเฉลี่ย 200 กิโลกรัม/ไร่ ผลผลิตฝักแห้งเฉลี่ย 60-100 กิโลกรัม/ไร่ เมื่อเก็บผลผลิตออกหมดจะเริ่มทำการไถกลบต้นถั่วเขียวเพื่อให้ย่อยสลายในดินอย่างน้อย 15 วัน เมื่อไถกลบแล้วจะสามารถเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุและเพิ่มธาตุไนโตรเจนในดินได้ 3-5 กิโลกรัม/ไร่
6. ผลผลิตบางส่วนจะเก็บไว้ขยายพันธุ์และทำการเพาะปลูกในฤดูกาลถัดไป และผลผลิตบางส่วนสามารถนำไปจำหน่ายได้ในราคากิโลกรัมละ 35-40 บาท